เส้นทางการพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก

เส้นทางการพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก เอเวอร์เรสต์

ถ้าหากพูดถึงเทือกเขาที่สูงที่สุดในโลกก็คงจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก “เทือกเขาเอเวอเรสต์” เทือกเขาที่เหล่าบรรดานักปีนเขาทุกคนต่างก็มีความใฝ่ฝันว่าสักครั้งหนึ่งจะได้มีโอกาสก้าวไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของเทือกเขาแห่งนี้ที่ได้ขื่อว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่ในโลก แม้ว่าการปีนเทือกเขาแห่งนี้จะเป็นเทือกเขาที่ขึ้นชื่อว่าอันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของโลกก็ตามที แต่ด้วยความที่นี่คือเทือกเขาที่สูงที่สุดในโลกและบริเวณยอดเขาแห่งนี้ก็สูงที่สุดในโลกนั่นทำให้เป็นสิ่งที่น่าท้าทายเป็นอย่างยิ่ง

สภาพภูมิอากาศที่ควรรู้ก่อนขึ้นไปบนเอเวอร์เรสต์

จากการที่เทือกเขาเอเวอร์เรสต์นั้นเป็นเทือกเขาที่มีระดับความสูงเหนือกว่าน้ำทะเลค่อนข้างจะมาก นั่นจึงส่งผลให้พื้นที่ในบริเวณนี้มีความกดอากาศต่ำ ในช่วงฤดูหนาวภูมิอากาศของสถานที่แห่งนี้จะเย็นเยือก บริเวณยอดเขาจะมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปีและถ้าหากว่าโชคร้ายก็อาจจะเจอพายุหิมะจนทำให้หลายๆ คนต้องจบชีวิตลงที่เทือกเขาแห่งนี้ด้วย

everest

เส้นทางแห่งการพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก

ในปัจจุบันนี้เส้นทางในการขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์จะมีด้วยกันอยู่ 2 เส้นทาง จากเบส แคมป์ แต่ก่อนที่จะไปถึงเบส แคมป์ ซึ่งหมายถึงแคมป์สำหรับนักปีนเขาก่อนที่จะเดินทางขึ้นไปยังยอดเขาเอเวอร์เรสต์ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนก็จำเป็นต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มากมาย โดย 2 เส้นทางที่ว่านี้จะประกอบไปด้วย

  1. เส้นทางจากฝั่งทิเบต – เป็นการขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ด้วยการผ่านเข้ามาสู่เบส แคมป์ ทางด้านทิศเหนือ ระยะทางทั้งหมดประมาณ 5,150 เมตร ซึ่งทางฝั่งนี้จะมีรถยนต์และรถไฟที่สามารถเข้าถึงเบส แคมป์ ได้ ซึ่งถ้าหากต้องการเดินทางด้วยรถไฟก็สามารถจะมาขึ้นรถไฟได้ที่เมือง Lhasa เพื่อมุ่งตรงไปยังสถานี Shigatse และหลังจากนั้นเมื่อถึงในบริเวณที่เป็นเบส แคมป์ แล้วที่เหลือก็เป็นฝีมือของนักปีนเขาที่จะต้องฝ่าฟันกันต่อไป
  2. เส้นทางจากฝั่งเนปาล – เป็นการขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ด้วยการผ่านเข้ามาสู่เบส แคมป์ ทางด้านทิศใต้จากเมือง Lukha ด้วยระยะทางทั้งหมดประมาณ 5,364 เมตร ซึ่งถ้าหากมาจากฝั่งเนปาลนักปีนเขาสามารถนั่งเครื่องบินมาลงยังสนามบินกาฐมัณฑุ หลังจากนั้นก็ต่อเครื่องบินไปยังเมือง Lukha และหลังจากนั้นจะเป็นการเดินเท้าขึ้นสู่เบส แคมป์ ซึ่งต้องบอกว่าเส้นทางนี้จะเป็นที่นิยมของนักปีนเขามากกว่านักท่องเที่ยว เพราะเหมือนกับว่าพวกเขาได้เริ่มต้นการปีนเขาตั้งแต่ต้นเลย และที่สำคัญเส้นทางยังหฤโหดแบบสุดๆ หลังจากถึงเบส แคมป์ แน่นอนว่าทุกคนก็ต้องปีนเขาไปยังยอดเขาตามเป้าหมายของตัวเองต่อไป